รับติดแบนเนอร์ราคาถูก รับติดป้ายโฆษณา
Taladnut ลงประกาศฟรี ขายสินค้าฟรี โปรโมทเว็บฟรี โฆษณาสินค้าฟรี ฝากลิ้งค์ฟรี
โปรโมทเว็บ, รับโฆษณาสินค้า

อุปกรณ์ออกบูธ

ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์ รับจ้างโพสต์เว็บ รับโพสเว็บ โปรโมทเว็บ โฆษณาสินค้า ราคาถูก รับรีโนเวท รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก โปรโมทเว็บ รับประกันติด google หน้า 1 รับทำ SEO ราคาถูก

รับทำSEOราคาถูก, รับโปรโมทเว็บรับประกันติดgoogle

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย)
โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz ขอบคุณมากครับ

รับซื้อทองโดยไม่รู้ว่าได้มาจากการกระทำความผิดผลเป็นยังไง

ผู้ฟ้องคดีฟ้องและแก้ไขฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 กับให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังมิได้คืน 8,068,325.96 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 7,293,402 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ฟ้องคดี ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีมีมูล ให้ประทับฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีให้การปฏิเสธและไม่ให้การในคดีส่วนแพ่งศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมในคดีส่วนแพ่งให้เป็นพับผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า ผู้ถูกฟ้องคดีมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคหนึ่ง (เดิม) จำคุก 1 ปี กับให้ผู้ถูกฟ้องคดีคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังมิได้คืน 5,339,180 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ทั้งนี้ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 28 เมษายน 2560) ต้องไม่เกินระยะเวลา 1 ปี 5 เดือน ตามที่โจทก์ขอ ค่าฤชาธรรมเนียมในคดีส่วนแพ่งชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับผู้ฟ้องคดีและผู้ถูกฟ้องคดีฎีกาศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความมิโต้เถียงกันชั้นฎีกาฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2558 เวลากลางวัน นายสมชาย ผู้ถูกฟ้องคดีในคดีหมายเลขดำที่ 4226/2558 ของศาลชั้นต้น เข้าไปในบ้านเลขที่ 232 อันเป็นเคหสถานของผู้ฟ้องคดี แล้วลักทองคำแท่ง หนักแท่งละ 10 บาท 20 แท่ง หนักแท่งละ 20 บาท 4 แท่ง และหนักแท่งละ 5 บาท 2 แท่ง สร้อยคอทองคำฝังเพชรและต่างหูเพชร 1 ชุด แหวนเพชร 1 วง สร้อยคอทองคำสองกษัตริย์ 1 เส้น สร้อยคอทองคำลายกระดูกงู 2 เส้น และธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท 100 ฉบับ ที่เก็บไว้ในบ้านดังกล่าวไป จากนั้นนายสมชายร่วมกับนายวัชรินทร์ จำเลยในคดีหมายเลขดำที่ 647/2559 ของศาลชั้นต้น ทำการสกัดทองคำแท่งที่ลักมาและหลอม เป็นทองก้อนที่โรงงานหลอมทองของนายวัชรินทร์ที่ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร วันรุ่งขึ้นนายสมชายกับนายวัชรินทร์นำทองคำที่หลอมแล้วไปขายให้แก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ห้างขายทองไล้เซ่งเฮงของนางมณี มารดาผู้ถูกฟ้องคดี ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีเป็นผู้ดูแลกิจการ ในราคา 5,339,180 บาท ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมนายสมชายกับนายวัชรินทร์ดำเนินคดี ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษนายสมชายข้อหาลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ทำให้เสียทรัพย์ และบุกรุก และศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษนายวัชรินทร์ข้อหารับของโจรคดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ผู้ถูกฟ้องคดีกระทำความผิดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หรือมิ เห็นว่า ในคดีความผิดข้อหารับของโจรนั้น โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบให้เห็นว่า จำเลยซื้อทองคำดังกล่าวไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิด ไม่ใช่ว่าเมื่อผู้ถูกฟ้องคดีเป็นผู้ครอบครองทองคำดังกล่าวแล้ว จำเลยต้องนำสืบแก้ตัวว่าตนไม่รู้ว่าเป็นของที่ได้มาจากการกระทำความผิด ดังนั้น ลำพังพฤติการณ์ที่ได้ความว่า ผู้ถูกฟ้องคดีรับซื้อทองคำที่มีการหลอมมาก่อนเป็นจำนวนมากก็ไม่อาจรับฟังได้ถึงขนาดที่ว่าผู้ถูกฟ้องคดีซื้อทองคำดังกล่าวโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิดข้อหาลักทรัพย์ เนื่องจากผู้ถูกฟ้องคดีเป็นผู้ดูแลห้างขายทองไล้เซ่งเฮงของนางมณีซึ่งได้รับอนุญาตให้ประกอบอาชีพค้าของเก่า ประเภทเพชร ทอง การที่ผู้ถูกฟ้องคดีรับซื้อทองคำจากนายวัชรินทร์เป็นจำนวนมากดังกล่าวฉะนั้นจึงมิใช่เรื่องผิดปกติทางการค้าของผู้ถูกฟ้องคดี ประกอบกับการซื้อขายทองคำดังกล่าวกระทำโดยเปิดเผยในเวลาทำการของร้าน โดยไม่มีการปิดบังหรือซุกซ่อนแต่อย่างใด ทั้งยังได้ความว่านายวัชรินทร์มีอาชีพหลอมทองและมีโรงงานหลอมทองเป็นของตัวเอง ก่อนเกิดเหตุนายวัชรินทร์นำทองคำไปให้ผู้ถูกฟ้องคดีตรวจสอบความบริสุทธิ์ของทองคำที่ร้านของจำเลยเป็นประจำโดยนายวัชรินทร์เบิกความตอบทนายจำเลยถามค้านว่า ขณะนำทองคำไปขายให้แก่ผู้ถูกฟ้องคดีนั้น พยานอ้างแก่จำเลยว่าเป็นทองคำที่พยานสะสมไว้ นอกจากนี้ยังได้ความจากร้อยตำรวจเอกดำรงศักดิ์ พนักงานสอบสวน เบิกความตอบทนายจำเลยถามค้านว่า การที่จำเลยรับซื้อทองคำในคดีนี้นั้นเป็นราคาตามท้องตลาดซึ่งเป็นไปตามที่สมาคมค้าทองคำระบุไว้โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการระบุรายละเอียดการซื้อขายทองคำดังกล่าวไว้ในสมุดบัญชีคุมรายการขายทอดตลาดและค้าของเก่า รวมทั้งมีการจัดทำหลักฐานใบรับซื้อทองเก่าที่แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของนายวัชรินทร์ไว้ ข้อเท็จจริงจึงเชื่อว่าจำเลยรับซื้อทองคำของผู้ฟ้องคดีไว้โดยไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดข้อหาลักทรัพย์ ดังนี้ นอกจากพยานหลักฐานโจทก์ดังกล่าวข้างต้นแล้ว โจทก์มิมีพยานอื่นใดมาสืบสนับสนุนเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลย พยานหลักฐานโจทก์เท่าที่นำสืบมาจึงมีน้ำหนักน้อย และรูปคดียังมีความสงสัยตามสมควรว่าผู้ถูกฟ้องคดีกระทำผิดข้อหารับของโจรหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น มิต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของผู้ถูกฟ้องคดีฟังขึ้น คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยต่อไปตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยต้องคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่โจทก์หรือมิ และตามฎีกาของผู้ฟ้องคดีว่า จำเลยต้องใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้ฟ้องคดีเพียงใด ซึ่งเห็นสมควรวินิจฉัยไปในคราวเดียวกัน และเห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าทองคำที่ผู้ถูกฟ้องคดีรับซื้อไว้จากนายวัชรินทร์เป็นของโจทก์ จำเลยดังนั้นจึงไม่ได้กรรมสิทธิ์ในทองคำ เพราะผู้ขายมิมีกรรมสิทธิ์ในทองคำนั้น ตามหลักที่ว่าผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงย่อมมีสิทธิติดตามเอาทองคำดังกล่าวคืนจากผู้มิมีสิทธิจะยึดถือไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 แม้ห้างขายทองไล้เซ่งเฮงของจำเลยจะอยู่ในชุมชนการค้า แต่จำเลยรับซื้อทองคำจากนายวัชรินทร์ที่นำมาขายให้ที่ห้างขายทองของจำเลย โดยมิได้ซื้อจากร้านค้าใดร้านค้าหนึ่งในชุมชนการค้านั้น การที่ผู้ถูกฟ้องคดีซื้อไว้โดยสุจริตและมิเป็นความผิดฐานรับของโจรดังที่วินิจฉัยมา ก็ถือมิได้ว่าจำเลยซื้อทองคำในท้องตลาดอันจะได้รับความคุ้มครองด้วยการยึดถือไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332 จำเลยดังนั้นจึงต้องคืนทองคำดังกล่าวแก่โจทก์ แต่ที่ผู้ฟ้องคดีมีคำขอให้จำเลยใช้ราคาทองคำเป็นเงิน 7,293,402 บาท ส่วนผู้ถูกฟ้องคดีอ้างว่ารับซื้อทองคำไว้ในราคาเพียง 5,339,180 บาท นั้น เห็นว่า วัตถุแห่งหนี้ที่จำเลยต้องชำระแก่ผู้ฟ้องคดีได้แก่ทองคำที่จำเลยรับซื้อไว้ ซึ่งได้ความจากทางนำสืบของจำเลยว่า ผ่านการสกัดและหลอม มีความบริสุทธิ์ 99.3 เปอร์เซ็นต์ น้ำหนัก 4,308.2 กรัม จะกลายเป็นหนี้เงินได้ก็ต่อเมื่อการคืนทองคำดังกล่าวแก่โจทก์เป็นการพ้นวิสัย หาใช่คิดคำนวณราคาในเวลาที่ผู้ถูกฟ้องคดีรับซื้อจากนายวัชรินทร์ดังที่โจทก์และผู้ถูกฟ้องคดีกล่าวอ้างแต่อย่างใดไม่ เมื่อไม่ปรากฏว่า การปฏิบัติการชำระหนี้ด้วยการคืนทองคำเป็นการพ้นวิสัยตั้งแต่เมื่อใด จึงกำหนดให้ใช้ราคาพร้อมดอกเบี้ยโดยคำนวณในขณะที่โจทก์ร้องขอให้ชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 213 อันได้แก่วันฟ้อง แต่เนื่องจากราคาซื้อขายทองคำในแต่ละวันมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ ฉะนั้นจึงกำหนดราคาให้ตามราคาขายโดยเฉลี่ยของสมาคมค้าทองคำในวันดังกล่าวอนึ่ง คดีนี้เป็นคดีอาญา ผู้ถูกฟ้องคดีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 252 แต่ผู้ถูกฟ้องคดีฎีกาโดยเสียค่าขึ้นศาลมา 118,230 บาท ฉะนั้นจึงให้คืนค่าขึ้นศาลดังกล่าวแก่ผู้ถูกฟ้องคดีพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องผู้ฟ้องคดีสำหรับความผิดฐานรับของโจร แต่ให้จำเลยคืนทองคำมีความบริสุทธิ์ 99.3 เปอร์เซ็นต์ น้ำหนัก 4,308.2 กรัม แก่ผู้ฟ้องคดี หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาทองคำดังกล่าวตามราคาขายโดยเฉลี่ยของสมาคมค้าทองคำในวันฟ้อง (วันที่ 28 เมษายน 2560) แต่ทั้งนี้ต้องมิเกิน 7,293,402 บาท ตามที่ผู้ฟ้องคดีขอ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับคืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกา 118,230 บาท แก่จำเลย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกานอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทนายเชียงใหม่

เครดิต : https://www.xn--42cgi4cjab1btnchd1exbza5gvad6dvnqc6f.com/

Tags : ทนายเชียงใหม่,ทนายความเชียงใหม่

 

รับโพส, รับจ้างโพส