รับติดแบนเนอร์ราคาถูก รับติดป้ายโฆษณา
Taladnut ลงประกาศฟรี ขายสินค้าฟรี โปรโมทเว็บฟรี โฆษณาสินค้าฟรี ฝากลิ้งค์ฟรี
โปรโมทเว็บ, รับโฆษณาสินค้า

อุปกรณ์ออกบูธ

ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์ รับจ้างโพสต์เว็บ รับโพสเว็บ โปรโมทเว็บ โฆษณาสินค้า ราคาถูก รับรีโนเวท รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก โปรโมทเว็บ รับประกันติด google หน้า 1 รับทำ SEO ราคาถูก

รับทำSEOราคาถูก, รับโปรโมทเว็บรับประกันติดgoogle

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย)
โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz ขอบคุณมากครับ

Ray-Ban จะผ่านมากี่ปี “แว่นกันแดดรุ่นพ่อ” แบรนด์นี้ก็ยังยืนหนึ่ง !




เมื่อเอ่ยถึงแบรนด์แว่นกันแดดในตำนาน  ที่ยังคงความเป็นอมตะ จนหลายคนแทบจะจับบูชามาไว้บนหิ้ง ทางเราเชื่อว่าคำตอบที่อยู่ในใจของใครหลายคนจะต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เรย์แบน !  ส่วนตัวเราเห็นคุณพ่อใส่ตั้งแต่จำความได้แล้ว แต่ตอนนั้นไม่รู้ตาสีตาสา คิดว่าก็คงเป็นแว่นกันแดดธรรมดาที่คนทั่วไปเค้าชอบใส่กัน แต่ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าแว่นกันแดดธรรมดาๆ ที่เราเห็นกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อนี้ จะกลายเป็นแว่นกันแดดที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้กำลังจะเดินทางเข้าสู่ปีที่ 86 แล้ว แต่กระแสความนิยมก็ไม่มีแผ่วเลยจริงๆ ไม่เจ๋งจริงทำไม่ได้นะ !








เห็นขึ้นแท่นระดับโลกแบบนี้ แท้จริงแล้วมีจุดเริ่มต้นมาจาก "ความบังเอิญ" ล้วนๆ


เรียกได้ว่าเป็นความบังเอิญที่แท้ทรู เพราะจุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้ ไม่สิ อย่าเพิ่งใช้คำว่าแบรนด์เลย  เพราะแรกเริ่มเลยจริงๆ พี่ โปร แทบจะไม่เห็นความเป็นไปได้ของเรย์แบนเลย จนกระทั่งได้มีเหตุการณ์นึงที่ทำให้เกิดเป็นแบรนด์นี้ขึ้นมา...

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1929 ในยุคนั้นวิวัฒนาการทางการบินในประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มจะค่อยๆ มีความก้าวหน้ามากขึ้น อย่างตัวเครื่องบินก็สามารถขับเคลื่อนไปในระดับความสูงที่เพิ่มขึ้นจากเดิม และเมื่อเครื่องบินสามารถบินได้สูงขึ้น เลยทำให้เกิดปัญหาที่นักบินส่วนใหญ่มักจะพบกันนั่นก็คือ วิสัยทัศน์ในการมองเห็น รวมถึงการถูกทำร้ายด้วยรังสีจากดวงอาทิตย์  ซึ่งเมื่อนานวันเข้าก็จะยิ่งเป็นอันตรายต่อดวงตาของนักบินเป็นอย่างมาก

เมื่อกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับนักบิน ทางกองทัพสหรัฐในตอนนั้นเลยได้ทำการติดต่อกับบริษัท Bausch & Lomb บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในการให้ช่วยออกแบบอุปกรณ์หรืออะไรก็ตามที่สามารถช่วยในการปกป้องดวงตาของนักบินขึ้นมา เลยเกิดเป็นแว่นตากันแดดที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดแสงสะท้อน ซึ่งคำว่า Ray-Ban ที่เราเรียกกันนี้ ก็ถูกย่อมาจากคุณสมบัติของแว่นตาอย่าง Banned UV Rays ที่ไปๆ มาๆ ก็ถูกเรียกกันอย่างติดปาก จนกลายเป็นชื่อของแบรนด์ขึ้นมาได้ซะงั้น 








แว่นกันแดด Ray-Ban รุ่น Aviator ขอบคุณภาพจาก : Ray-Ban


หลังจากถูกพัฒนาต่อมาได้สักพัก ก็เริ่มมีการทยอยนำแว่นตารุ่นนี้ออกมาให้เหล่านักบินได้ทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานกัน โดยแว่นตารุ่นนี้ถูกเรียกว่าเป็น Ray-Ban รุ่น Aviator พี่ โปรโมชั่น ว่าจุดเด่นสำหรับรุ่นนี้เลย ก็คือ ตัวเลนส์สีเขียว ที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดแสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์ อีกทั้ง ยังมีรูปทรงของเลนส์ที่นูน ทำให้สามารถปกป้องดวงตาของนักบินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมตัวกรอบแว่นยังทำจากพลาสติก มีน้ำหนักเบา ทำให้นักบินสามารถสวมเวลาที่ขึ้นบินได้แบบสบายๆ

ต่อมาในปี ค.ศ. 1937 หลังจากพัฒนาและทดลองต่ออีกสักพัก Ray-Ban Aviator ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการขึ้นมาเป็นครั้งแรก และเริ่มมีการนำมาใช้ในกองทัพทันที แถมงานนี้ไม่ใช่แค่เฉพาะนักบินอย่างเดียวแล้ว และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแว่นกันแดดเรย์แบนรุ่นนี้จะกลายเป็นไอเทม 'ที่ต้องมี' ของกองทัพสหรัฐในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ผ่านมานี้ด้วย

ช็อปแว่นตา Ray-Ban รุ่น Aviator ได้ที่นี่ > https://ppro.pro/2Z27c6M








ดักลาส แมกอาเธอร์ (คนกลาง) นายพลระดับสูงของกองทัพสหรัฐ
กับแว่นตา Ray-Ban รุ่น Aviator ภาพจาก Business Insider



จากแว่นตากันแดดสำหรับนักบิน สู่ HERO ITEM ที่ใครๆ ก็อยากได้ !


หลังจากกองทัพสหรัฐสามารถพาชัยชนะกลับมายังประเทศบ้านเกิดของตัวเองได้สำเร็จ จึงเกิดเป็นผลพลอยได้ให้กับตัวแว่นตากันแดด Ray-Ban นี้ขึ้นมาด้วย เพราะการชนะสงครามในครั้งนี้ทำให้เรย์แบนถูกมองว่าเป็น Hero Item หรือไอเทมสำหรับผู้ชนะ  พี่ promotion ขออธิบายง่ายๆ เลย ก็คือ คงจะไม่มีใครหรอกที่ไม่อยากเป็น Hero ซึ่งนักบิน รวมถึงทหารในตอนนั้นเป็นเหมือนฮีโร่ของประชาชนชาวอเมริกัน ถ้าจะเลียนแบบอะไรในตัวของพวกเค้าได้สักอย่าง ดูเหมือนสิ่งที่ง่ายที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นการแต่งตัวและใช้ของเลียนแบบฮีโร่ของพวกเค้านั่นเอง








แว่นกันแดด Ray-Ban รุ่น Wayfarer ขอบคุณภาพจาก : Ray-Ban


และเมื่อ Ray-Ban Aviator รุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นไอเทมของฮีโร่แล้ว พี่ promotions บอกเลยว่าไม่หยุดอยู่แค่เพียงเท่านี้ กลับกลายเป็นว่านอกจากประชาชนทั่วไปจะนิยมสวมแว่นตากันแดดเรย์แบนกันแล้ว นักการเมืองบางคนก็เริ่มทยอยหยิบแว่นเรย์แบนมาสวมด้วยเช่นกัน จากข้อมูลพบว่า อดีตประธานาธิบดี John F. Kennedy ของสหรัฐอเมริกา เคยปรากฏตัวในที่สาธารณะพร้อมกับแว่นตากันแดดเรย์แบนรุ่น Wayfarer ที่มีลักษณะโดดเด่นและแตกต่างจากรุ่น Aviator ตรงที่มีขอบดำหนา แถมยังให้ภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัย เหมือนสำนวนของฝรั่งที่เรียกกันว่า Swagger เป็นอย่างมาก

นอกจากอิทธิพลของทหารและนักการเมืองแล้ว Ray-Ban ยังได้รับความนิยมในวงการบันเทิงด้วยเช่นกัน โดยในยุค 1950s ซึ่งเป็น ยุคทองของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในอเมริกา  ปรากฏว่ามีนักแสดงหลายคนที่สวมแว่นตาเรย์แบนเข้าฉากถ่ายทำในภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นแว่นตารุ่นคลาสสิกอย่าง Aviator, Wayfarer รวมถึงแว่นดีไซน์ใหม่ๆ จากเรย์แบนก็ได้รับความนิยมขึ้นมาด้วยเช่นกัน กลายเป็นว่านอกจากทหารและนักการเมืองจะเป็นผู้ขับเคลื่อนทางธุรกิจที่ดีของแว่นตาแบรนด์นี้แล้ว เหล่าคนดังเองก็เป็นอีกหนึ่งพลังในการขับเคลื่อนที่ดีด้วยเช่นกัน








ขอบคุณภาพจาก : Business Insider


Tom Cruise ชายผู้ต่อลมหายใจให้ Ray-Ban อีกครั้ง !


เห็นแว่นเรย์แบนได้รับความนิยมมาโดยตลอดแบบนี้ แต่ทุกคนรู้กันไหมว่าเราเกือบจะไม่ได้เห็นแบรนด์นี้กันแล้ว เพราะ HERO ITEM อย่างแว่นตาเรย์แบนเกือบไปไม่รอด สืบเนื่องมาจากยอดขายที่ตกต่ำมาก ต่อให้จะมีการหยิบเอาแว่นตาแบรนด์นี้ไปใส่ถ่ายแบบในนิตยสารแฟชั่นก็แล้ว แต่ยอดขายก็ยังแตะอยู่ที่หลักแสนต้นๆ ต่อปี ซึ่งถือว่าก็ยังน้อยมากอยู่ดี

จนกระทั่งการมาของภาพยนตร์เรื่อง Risky Business ในปี ค.ศ. 1983 ทอม ครูซที่ในตอนนั้นยังไม่ได้เป็นนักแสดงดังที่มีชื่อเสียงเหมือนทุกวันนี้ ได้สวมแว่นตาของเรย์แบนรุ่น Wayfarer เข้าฉากถ่ายทำในภาพยนตร์ และด้วยความที่ว่าความนิยมของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ยังไม่ได้ลดลง ส่งผลให้ยอดขายของแว่นตารุ่นนี้เพิ่มขึ้นได้สูงถึง 50% จากยอดขายในช่วงก่อนหน้า และเมื่อนับจำนวนยอดขายคร่าวๆ ระหว่างปี 1980s - 1988s แล้ว แว่นตาเรย์แบนรุ่น Wayfarer นี้ สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 3-4 ล้านชิ้นเลยทีเดียว !

ช็อปแว่นตา Ray-Ban รุ่น Wayfarer ได้ที่นี่ > https://ppro.pro/3paEnjF




เห็นผลภายใน 2 สัปดาห์
ลดผมร่วงได้อย่างชัดเจน

 







ขอบคุณภาพจาก : IMDb


ยัง ยังไม่พอ เพราะในระหว่างนี้ ทอม ครูซ ก็ได้ปรากฏตัวพร้อมกับแว่นตาเรย์แบนอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง Top Gun ที่เค้ารับบทเป็นนักบิน ซึ่งเมื่อเอ่ยถึงนักบิน ทายซิว่าแว่นตารุ่นไหนที่จะปรากฏตัวพร้อมกับเค้าในเรื่องนี้ด้วย ?  ถูกต้องแล้ว แว่นตารุ่นนั้นก็ได้แก่ Ray-Ban รุ่น Aviator นั่นเอง และเห็นทีคราวนี้โชคก็ยังคงเข้าข้าง Ray-Ban อยู่ เพราะแว่นตารุ่นนี้สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 40% ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปี  โดยเรย์แบนรุ่นนี้สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 4.5 ล้านชิ้นเลยทีเดียว



อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม คลิ๊กเลย >>> https://www.punpro.com/p/Ray-Ban-Brand-Story




นี่สินะ ที่เค้าเรียกกันว่า เพราะไม้แขวนมันดี

การที่สินค้าจะได้รับความนิยมขึ้นมา จึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรเลย




การปรากฏตัวของทอม ครูซ คู่กับแว่นตาเรย์แบนนี้ กลายเป็นเหมือนสัญลักษณ์ทางการค้าไปแล้วว่า ถ้ามีทอม ครูซ จะต้องมีเรย์แบน และทอม ครูซนี่แหละ คือผู้ชุบชีวิตของ Ray-Ban ให้กลับมามีชื่อเสียงและได้รับความนิยมกันอีกครั้ง และครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะสามารถเรียกกระแสได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากที่ครูซปรากฏตัวพร้อมกับแว่นตาเรย์แบนในภาพยนตร์ กลับกลายเป็นว่ามันไม่ใช่เพราะหน้าที่เพียงอย่างเดียวแล้ว แต่ชีวิตส่วนตัวของเค้าก็มีความชอบและหลงใหลในแว่นตาเรย์แบนนี้ด้วยเช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่นในปี ค.ศ. 2013 ทอม ครูซได้ไปปรากฏตัวที่งานแถลงข่าวภาพยนตร์เรื่อง Star Trek โดยเค้าได้ถูกนักข่าวถามเรื่องแว่นตาสีดำที่สวมอยู่ว่ามันคือแว่นตาสามมิติสำหรับการชมภาพยนตร์หรือเปล่า ครูซตอบสั้นๆ เพียงแค่ว่า "No, Man, These are Ray-Ban"  นั่นแปลว่า แว่นตาเรย์แบนกลายเป็นไลฟ์สไตล์อย่างหนึ่งในชีวิตของเค้าไปซะแล้ว ไม่ใช่เพราะว่าเค้าถูกจ้างให้มาพูดแต่อย่างใด







ขอบคุณภาพจาก : IMDb


ล้มได้ก็ลุกได้ ต่อยอดความสำเร็จผ่าน Timeless Design


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหตุผลข้อนึงที่ทำให้แว่นกันแดดเรย์แบนได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ก็คือ รูปทรงของการออกแบบที่สามารถเข้ากันได้ดี แม้ว่าเวลาจะผ่านมาหลายยุค หลายสมัยแล้วก็ตาม  และไม่ใช่เฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่ให้ความสนใจกับแว่นตาของเรย์แบน แต่ยังรวมไปถึงผู้หญิง และเด็กๆ ด้วยเช่นกัน

โดยเรย์แบนได้พยายามตอบโจทย์ลูกค้าให้มากขึ้นด้วยการเปิดตัวแว่นพร้อมดีไซน์ใหม่ๆ ที่สามารถรองรับได้ทั้งผู้ใหญ่ รวมถึงเด็กออกมา พร้อมกับปรับรูปแบบของการดีไซน์ และปรับปรุงการใช้งานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังรองรับการใช้งานของกลุ่มลูกค้าได้หลายอาชีพไม่ว่าจะเป็นทหาร นักการเมือง นักกีฬา ดารานักแสดง รวมไปถึงประชาชนธรรมดา ที่สำคัญเรย์แบนยังเป็น ต้นแบบ ให้กับแว่นตาแบรนด์หรูแบรนด์อื่น ในการผลิตแว่นตาที่มีลักษณะคล้ายๆ กันออกมาวางขายในท้องตลาดอีกด้วย








ขอบคุณภาพจาก : Youtube Chanel : Facebook


ปฏิวัติวงการแว่นตารุ่นพ่อ สู่การเปิดตัว Smart Glasses รุ่นแรกของ Ray-Ban


หลังจาก The Luxottica Group บริษัทอุตสาหกรรมแว่นตาที่ใหญ่ที่สุดในโลกเข้ามารับช่วงต่อในการดูแล Ray-Ban ส่งผลทำให้ภาพลักษณ์ของเรย์แบนมีความทันสมัยขึ้นมาเยอะมาก อย่างล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวกันไปก็ได้แก่ Smart Glasses รุ่น Stories หรือมีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า Ray-Ban Stories โดยแว่นตาอัจฉริยะรุ่นนี้ได้รับความร่วมมือกับ Facebook ในการออกแบบและผลิตเป็นแว่นตารุ่นนี้ขึ้นมา

โดยคุณสมบัติอันโดดเด่นของ Ray-Ban Stories นี้คือ สามารถเชื่อมต่อกับทุกอย่าง ได้ผ่านแว่นตาอัจฉริยะอันนี้อันเดียว ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพและอัดวิดีโอได้ที่ขาแว่น สามารถฟังเพลงได้แถมยังให้เสียงที่ชัด เชื่อมต่อโลกโซเชียลได้เพียงปลายนิ้ว อีกทั้ง ยังสามารถรับสายโทรศัพท์ขณะที่กำลังสวมแว่นตาอยู่ได้ด้วย







และเพราะความอัจฉริยะ "เกินไป"  ทำให้แว่นตา Smart Glasses รุ่นนี้

ถูกมองว่าเป็นอันตรายต่อความมั่นคงระดับประเทศขึ้นมา




หน่วยข่าวกรองของประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่า แว่นตา Smart Glasses ของเรย์แบนรุ่นนี้ กลายเป็นไอเทมที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของประเทศเป็นอย่างมาก เพราะคุณสมบัติต่างๆ ของมัน เปรียบได้กับ Spy Gadgets เลยถูกสั่งห้ามไม่ให้มีการวางขายอย่างเด็ดขาดในประเทศรัสเซีย แถมยังมีข้อบังคับอีกด้วยว่า หากใครมีความพยายามที่จะสั่งซื้อมันผ่านทางอินเตอร์เน็ต คนๆ นั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายทันที

แต่สำหรับในประเทศไทยยังไม่ได้มีการห้ามไม่ให้จำหน่าย Ray-Ban Stories แต่อย่างใด แต่อาจจะรอการนำเข้ามาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการกันอีกที หรือใครอยากจะกดสั่งผ่านเว็บไซต์ของทาง Ray-Ban กันเลยก็ได้ สำหรับค่าตัวของแว่นตาอัจฉริยะรุ่นนี้จะอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท* โดยมีให้เลือกหลายสี หลายเลนส์ และหลายแบบ ใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมกันได้ที่ > https://www.ray-ban.com/usa/ray-ban-stories

*อ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ 17 ตุลาคม 2564









หลังจากนี้ก็ต้องจับตาดูกันต่อไป ว่าอนาคตของแบรนด์แว่นกันแดดรุ่นพ่ออย่าง Ray-Ban นี้ จะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์พวกเรากันอีก แต่ส่วนตัวเรามองว่าถ้าเราจับใจความกันได้ตั้งแต่ต้นจะเห็นว่าแบรนด์นี้เค้ามาพร้อมกับ ความฟลุ๊ค เหมือนกันนะ ลองคิดกันดูเล่นๆ สิ ว่าถ้ากองทัพสหรัฐมีคำสั่งให้บริษัทอื่นทำ ที่ไม่ใช่ Bausch & Lomb เราจะยังมีโอกาสได้รู้จักกับเรย์แบนกันอยู่ไหม

แล้วถ้าทอม ครูซไม่ได้ทำให้ความนิยมของเรย์แบนกลับมาได้ในตอนนั้นล่ะ ตอนนี้เรย์แบนจะเป็นอย่างไร แต่ใดใดก็คือความนิยมในตอนนี้ของเรย์แบน ดูเหมือนว่าจะไม่แผ่วเอาซะเลย โดยเฉพาะแว่นตาอัจฉริยะรุ่นแรกของแบรนด์อย่าง Ray-Ban Stories นี้ ได้รับเสียงฮือฮาในหลายประเทศเยอะมาก นี่ถ้าเข้ามาวางขายในไทยเมื่อไหร่ เห็นทีเราจะได้โฉบเข้าไปลองเล่นดูแล้วแหละ อยากรู้เหลือเกินว่าความอัจฉริยะที่ทำให้บางประเทศกลัวได้แบบนี้ มันจะอัจฉริยะได้แค่ไหนเชียว !

สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการจะช็อปแว่นตาจาก Ray-Ban ก็สามารถเข้าไปช็อปได้ที่นี่เลยจ้าา > https://ppro.pro/3vkCrWW

กระซิบว่าตอนนี้มีคูปองส่วนลดราคา 200 บาท เมื่อซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาทอยู่ด้วยนะ ใครอยากได้รีบไปเก็บด่วน !



ขอบคุณข้อมูลจาก : Ray-Ban, TheMoscowTimes, Mentalfloss, Specsforvets, TheSunglassFix, 440Industries และ ChicagoTribune

 

รับโพส, รับจ้างโพส